สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ทุ่มพัฒนาระบบรับแผนจัดงานรับสร้างบ้าน Online ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่10 – 20 กันยายน 2564 ด้าน “วรวุฒิ กาญจนกูล” เชื่อมั่นแพลตฟอร์มใหม่ที่พัฒนาขึ้น เพื่อเป็นการปูทางวางแผนรองรับในระยะยาวกับการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ หวังช่วยผู้บริโภคติดต่อและเข้าถึงบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ อย่างสะดวก รวดเร็วแบบ “เรียลไทม์”
นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (สมาคมฯ) ได้พร้อมจัดงานรับสร้างบ้าน Online 2021 ซึ่งกำหนดการจัดงานขึ้น ระหว่างวันที่ 10-20 กันยายน 2564 โดยสามารถเข้าชมได้ที่ www.hba-th.org ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าวเป็นการจัดงานขึ้นเป็นครั้งที่สอง (ครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อ วันที่ 20-31 มีนาคม 2563) ในรูปแบบ Virtual Online ที่สมาคมฯ ได้ทุ่มงบประมาณค่อนข้างมากในการพัฒนาระบบให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นกว่าการจัดงานครั้งแรก เพื่อให้ผู้บริโภคที่ต้องการปลูกสร้างบ้านติดต่อและเข้าถึงบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯอย่างสะดวก รวดเร็วแบบ “เรียลไทม์” โดยระบบที่สมาคมฯ พัฒนาขึ้นนี้มีความเสถียรแลพร้อมใช้งานในระยะยาวที่เชื่อมั่นว่าจะตอบโจทย์ธุรกิจในยุคดิจิทัลที่เน้นสร้าง Data Base ผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านกลุ่มใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ขณะที่ในฝั่งผู้บริโภคเองก็เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ทั้งการเลือกแบบบ้าน โปรโมชั่นต่าง ๆ และสะดวกต่อการเข้าชม ป้องกันการระบาดของโรคระบาด โดยเฉพาะโควิด-19
อย่างไรก็ดี แพลตฟอร์ม การจัดงานรับสร้างบ้าน Online ที่สมาคมฯ พัฒนาระบบขึ้นมาก็เพื่อเป็นการปูทางวางแผนรองรับในระยะยาวกับการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ กล่าวคือในยามเกิดวิกฤติที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ หรือต่อการจัดกิจกรรมทางการตลาด ก็สามารถจัดงานขายผ่านออนไลน์ได้หรือในยามที่สถานการณ์ปกติก็สามารถดำเนินการจัดควบคู่ไปกับการจัดงานแบบออฟไลน์ได้ด้วยเช่นกัน
นายวรวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า การแทรกช่องว่างด้วยการจัดกิจกรรมผ่านงานรับสร้างบ้าน Online จะเป็นแรงกระตุ้น หรือแรงเหวี่ยงต่อเนื่องไปยังตลาดในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ที่สมาคมฯ ได้วางแผนการจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2021” ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคาดหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้นและมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง เมื่อสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นเชื่อว่าจะทำให้กลุ่มผู้บริโภคที่ชะลอการปลูกสร้างบ้านที่มีสัดส่วนมากถึง 72% เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะมีความเชื่อมั่นและตัดสินใจปลูกสร้างบ้าน
อนึ่ง : ผลมาจากการสำรวจและทำแบบสอบถามไปยังกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคจำนวนเกือบ 400 รายเมื่อช่วงวันที่ 1-15 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
➢ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้านมากถึง 72% ส่วนที่เหลือ 28% ไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้าน ข้อมูลดังกล่าวคาดว่าเป็นกลุ่มบ้านราคาแพงซึ่งตลาดยังพอไปได้ต่างจากบ้านขนาดเล็กหรือตลาดทั่วไป (Mass) ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลต่อการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านมาก ด้วยเหตุนี้อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านที่เดิมเน้นตลาดทั่วไป (Mass) ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทได้ขยับมาจับตลาดบ้านราคาแพงตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
➢ เมื่อถามว่าต้องการจะปลูกสร้างบ้านพร้อมเข้าอยู่ใช้เวลาในการปลูกสร้างกี่ปีนั้น พบพร้อมปลูกสร้างไม่เกิน 6 เดือนคิดเป็นสัดส่วน 24% และใช้เวลามากกว่า 6 เดือนถึง 2 ปีคิดเป็นสัดส่วน 65% และ ใช้เวลา 2-3 ปี คิดเป็นสัดส่วน 11%
➢ ส่วนทำเลที่เลือกปลูกสร้างบ้านนั้น 3 ทำเลที่ต้องการปลูกสร้างมากสุดคือ อันดับหนึ่งยังเป็นพื้นที่ในกรุงเทพ-มหานคร/ปริมณฑลคิดเป็นสัดส่วน 37% อันดับสอง ภาคกลาง (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร/ปริมณฑล) คิดเป็นสัดส่วน 18% อันดับสาม ภาคใต้คิดเป็นสัดส่วน 18%
➢ และสื่อที่ผู้บริโภคเข้าถึงบ่อยที่สุดคือ Facebook คิดเป็นสัดส่วนที่มากถึง 92.8%