อานิสงส์ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หนุนคอนโดจรัญฯ ราคาพุ่ง20%

นางปนัดดา ขจรศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากผลการสำรวจของทีมวิจัยและพัฒนาโครงการพบว่า   ทำเล “จรัญสนิทวงศ์” เป็นพื้นที่มีแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมเป็นหลัก โดยเฉพาะโซนติดรถไฟฟ้า

โดยในปี 2563 คอนโดจรัญ 

มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (Capital Gain) จากการซื้อมาและขายออกไปเฉลี่ยอยู่ที่ 8% ต่อปี โดยระดับราคาคอนโดมิเนียมในทำเลนี้มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000-120,000 บาท/ตร.ม.  ซึ่งเป็นราคาที่ปรับขึ้น 20% จากปี 2560 และราคามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้เป็นผลจากการขยายของเมืองตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยปัจจุบันมีจำนวนอาคารชุดเหลือขายในทำเลจรัญสนิทวงศ์ 965 ยูนิต มีอัตราการขายเฉลี่ย 5% ต่อเดือน โดยมีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 89,700 บาทต่อตร.ม. หรือประมาณ 2.8 ล้านบาทต่อยูนิต

ขณะเดียวกัน ความต้องการเช่าที่พักอาศัยในย่านนี้ก็มีความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีตก่อนรถไฟฟ้าสีน้ำเงินจะแล้วเสร็จ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีแหล่งงานทางการแพทย์อย่างโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลธนบุรี และโรงพยาบาลยันฮี ทำให้มีกลุ่มผู้เช่าที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องการที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงานเป็นจำนวนมาก ราคาเช่าเฉลี่ยในย่านจรัญสนิทวงศ์อยู่ที่ 350 บาท/ตร.ม./เดือน โดยราคาเช่าห้องขนาด 30-35 ตร.ม.เฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 บาท/เดือน ห้อง Studio Type เฉลี่ยที่ 6,000-8,500 บาท/เดือน Rental Yield ที่ 5% ต่อปี

บริษัทจึงเปิดตัวโครงการลุมพินี วิลล์ จรัญ – ไฟฉาย ซึ่งเป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย มูลค่า 3,000 ล้านบาท ที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพในย่านฝั่งธนบุรี ที่สามารถเดินทางเข้า-ออกสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบายทั้งทางรถยนต์และรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีจรัญฯ 13 และสถานีไฟฉาย ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กับการอยู่อาศัย ของ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว  ในการอยู่อาศัย ใกล้ชิดกับธรรมชาติและกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว ในราคาขายเริ่มต้น 1.64 ล้านบาทออกมาเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าที่สนใจ

ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ “เดือน 9-9 ยูนิต @ ลุมพินี วิลล์ จรัญ – ไฟฉาย” พิเศษเฉพาะโครงการลุมพินี วิลล์ จรัญ – ไฟฉาย โดยนำห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร จำนวน 9 ห้องมาจัดแคมเปญให้กับลูกค้าในราคาพิเศษ 1.79 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อกระตุ้นยอดขายในไตรมาสสามของปี 2564