The Standard huahin สัญญาณบวกหลังเปิดประเทศ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา จุดประกายความหวังในการพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอีกครั้ง!
แสนสิริ ได้ฤกษ์คิกออฟ “เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน” บูทีคโฮเทลและไลฟ์สไตล์ระดับโลก รับดีมานด์นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่อั้น! มายาวนาน พร้อมบริการ 1 ธ.ค.นี้
อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ว่า สถานการณ์โควิค-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้การท่องเที่ยวในหัวเมืองใหญ่ใกล้กรุงเทพฯ จะฟื้นตัวแบบก้าวกระโดด! สอดรับการเปิดตัวของ “เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน” โรงแรมเครือ เดอะ สแตนดาร์ด (The Standard) แห่งแรกในประเทศไทย เป็นรีสอร์ทติดชายหาดแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ ความต้องการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากความต้องการถูกอั้นไว้ (Pent Up Demand) ในช่วงวิกฤติโควิดเกือบ 2 ปี ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟนคลับของ เดอะ สแตนดาร์ดทั่วโลก
แสนสิริ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล สัดส่วน 62% เป็นผู้ลงทุน เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน ด้วยเม็ดเงินกว่า 800 ล้านบาท มองเห็น “โอกาส” นำเสนอประสบการณ์การพักผ่อนที่ตอบโจทย์รายบุคคล (Individualization) ด้วยจุดเด่นของรีสอร์ทติดชายหาดที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ทั้งห้องพัก กิจกรรมไลฟ์สไตล์ฉีกมาตรฐานโรงแรมที่คุ้นเคย! รวมทั้งอาหาร และไนท์ไลฟ์ ให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน (Upside Down)
แบรนด์ เดอะ สแตนดาร์ด สร้างชื่อเสียงมาแล้วในหลายเมืองทั่วโลก ไม่ว่าจะนิวยอร์ก ลอนดอน ไมอามี่ ฯลฯ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์บูทีคโฮเทลที่ดีที่สุดในโลก!! ที่เหล่าเซเลบริตี้ทั่วโลก อาทิ จัสติน บีเบอร์, มาดอนน่า, บิยอนเซ่ มาใช้บริการ
สำหรับ “หัวหิน” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และพึ่งพากลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก 70% มีอัตราเข้าพักสูงกว่า พัทยา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันเป็นเมืองที่ต่างชาติให้ความสนใจ เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เป็นไปตามเทรนด์หลังจากเกิดโควิด
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์แนวโน้มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ 5 เดือน (พ.ย.2564-มี.ค. 2565) ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน ใช้จ่ายเฉลี่ย 60,000 บาทต่อคน ขณะที่นักท่องเที่ยวคนไทยจะกลับมาเที่ยวด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ และที่พักประเภทรีสอร์ทที่มีความเป็นส่วนตัวในเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ จะได้รับความนิยมสูงสุด จึงเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการเปิดตัว “เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน”
เชื่อว่า ปีหน้าแสนสิริจะมีรายได้ 500 ล้านบาทจากธุรกิจโรงแรม มาจาก เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน เภรี หัวหิน และเภรีเขาใหญ่ ซึ่งมาจาก Pent Up Demand หลังเปิดประเทศและสอดรับกับไทม์ไลน์ของการเปิดพื้นที่นำร่องโครงการ “หัวหิน รีชาร์จ” เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมาท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวในหัวหินมีแนวโน้มฟื้นตัวก้าวกระโดด คาดว่าอีก 2 ปี อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะฟื้นตัว
“แสนสิริ มีแนวคิดไดเวอร์ซิฟายธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ประจำจากการลงทุนในธุรกิจโรงแรมมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเข้าถือหุ้นใหญ่ สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อ 5 ปีก่อน คอนเซปต์ของ เดอะ สแตนดาร์ด เป็นไลฟสไตล์มาร์เก็ตติ้ง สามารถเชื่อมโยงแสนสิริได้ลงตัว เราเน้นลงทุน ซอฟท์ แอสเสท ไม่ใช่ ฮาร์ด แอสเสท ที่ใช้เม็ดเงินลงทุนสูงแต่ได้ผลตอบแทนต่ำ 10-12% คืนทุนนาน 15-16 ปี”
“เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน” เป็นโครงการแรกที่แสนสิริ ลงทุนเอง หลังจากได้ที่ดินลิสโฮลด์ของตระกูล “กฤดากร”เป็นระยะเวลา 30 ปี จากเจ้าของที่ดินเพื่อพัฒนา คาดใช้เวลา 10 ปี ในการคืนทุน หลังจากนั้นอาจนำเข้ากองรีท หรือ โทเคน ใน 2-3ปี ข้างหน้า
“ศักยภาพตลาดหัวหิน และจุดขายที่โดดเด่น แตกต่าง จะทำให้ เดอะ สแตนดาร์ด เขย่าตลาดโรงแรมหัวหินกลับมาคึกคักและชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งได้ไม่ยาก”
พร้อมกันนี้ แสนสิริ ยังเปิดกว้างในการรับบริหารให้เจ้าของที่ดิน ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจาทำเลในภูเก็ตให้ เดอะ สแตนดาร์ด เข้าไปบริหาร รวมทั้งขยายแบรนด์ “เภรี” โรงแรมระดับ 4 ดาว
บริพัตร หลุยเจริญ กรรมการผู้จัดการ สแตนดาร์ด เอเชีย กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของแบรนด์ นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัวเลขยอดการจองตรงในโรงแรมในเครือ เดอะ สแตนดาร์ด อยู่ระดับสูง ประกอบกับโลเคชันของเดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน อยู่ติดหาดหัวหินบริเวณซอยหัวหิน 65 ใกล้มาร์เก็ตวิลเลจ ซึ่งเป็นไพร์มโลเคชั่น
ทั้งนี้ มีห้องพักและวิลล่ารวม 199 ห้อง มีดีไซน์ต้นแบบจาก เดอะสแตนดาร์ด สปา ไมอามี บีช ที่ให้ความรู้สึกเป็นบ้านพักตากอากาศชายทะเล ริมหาด มีบาร์ติดหาด คือ Lido และ The Juice Café รวมถึงมีร้านอาหาร Praca เสิร์ฟอาหารไทยในบ้านสไตล์โคโลเนียล ในระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เฉลี่ยราคาห้องพัก 178 ห้อง 6,000 บาทต่อคืน หากเป็นวิลล่า ระดับราคาตั้งแต่ 15,000-30,000 บาทต่อคืน
ขอบคุณที่มาจาก bangkokbiznews
อ่านข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ Blog ของเรา คลิก Home Connect