บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ยืนหยัดการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย
และเป็นองค์กรอสังหาริมทรัพย์หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการการันตีระดับโลกให้ติดอันดับ ดัชนีความยั่งยืน ดาวน์โจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices) ในกลุ่ม DJSI World ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน และในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ต่อเนื่อง 8 ปีซ้อน สะท้อนแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
สามารถปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่างๆได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และช่วยเหลือสังคมในยามวิกฤต รวมทั้งเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนา ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดี เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน อยู่เคียงข้างดูแลคนไทยมายาวนานมากกว่า 40 ปีแล้ว และไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับสังคมไทย มีการลงทุนในโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง
โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาความเจริญและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศ ที่สำคัญ เรายึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ใส่ใจดูแลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ ลูกค้า, ผู้เช่า, ผู้ถือหุ้น, พนักงาน, ไปจนถึงสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ให้ได้รับการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน
และในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 แล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของทั้งผู้บริหาร และพนักงานเซ็นทรัลพัฒนาทุกคน ที่ได้มุ่งมั่นพัฒนา สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับทุกคนอย่างไม่หยุดนิ่ง พร้อมดูแลเคียงข้างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืนจนได้รับการยอมรับในระดับโลก”
เซ็นทรัลพัฒนา เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีมูลค่าองค์กรสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนียั่งยืนระดับโลก DJSI World 2021 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ต่อเนื่อง 8 ปี ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำทั่วโลก รวมทั้งใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงในการพิจารณาการลงทุนซึ่งเป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจทั่วโลกว่าบริษัทที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนให้กับผู้ลงทุนได้
1) ด้านเศรษฐกิจ: เดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาความเจริญในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ ช่วยให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบในท้องถิ่นต่างๆ พร้อมส่งเสริม SMEs รายย่อย ช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ เพิ่มช่องทางการขาย และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
2) ด้านสังคม: ศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนาเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของผู้คนในทุกจังหวัด โดยทุกโครงการดึงเอาอัตลักษณ์ความภาคภูมิใจของแต่ละท้องถิ่นมาผสมผสานอย่างลงตัวผ่านการออกแบบโครงการ และส่งเสริมการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น สนับสนุนสินค้าชุมชน รวมทั้งพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีให้กับแต่ละชุมชนอีกด้วย พร้อมเป็นต้นแบบศูนย์การค้าสะอาดปลอดภัยสำหรับทุกคน คุมเข้มแผนแม่บท “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ Safe Plus+”
มีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้เสริมความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย อาทิ นวัตกรรม touchless ลดสัมผัส, เครื่องอบ UV-C ฆ่าเชื้อถุงช้อปปิ้ง, เครื่อง UV-C ฆ่าเชื้อในระบบปรับอากาศ และล่าสุดเป็นผู้นำนวัตกรรมคุณภาพกรองอากาศ ‘SMART & HEALTHY BUILDING’ ยกระดับระบบปรับอากาศและกรองอากาศ เพื่ออากาศสะอาดหมุนเวียนภายในศูนย์การค้ามากที่สุด เพื่อความปลอดภัยต่อทุกคน เป็นต้น นอกจากนี้ ในช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา ยังได้มอบพื้นที่รวมกว่า 40,000 ตร.ม.
สำหรับเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนปลอดภัยที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 23 สาขา ทั่วประเทศเพื่อช่วยกระจายวัคซีนให้กับประชาชน รวมทั้งผนึกกำลังกลุ่มเซ็นทรัลและพันธมิตรในการช่วยเหลือด้านสาธารณสุขในชุมชนต่างๆ อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
3) ด้านสิ่งแวดล้อม: มุ่งสร้างความยั่งยืนภายใต้โครงการ Journey to Zero เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษ โดยส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้โซลาร์ เซลล์ในศูนย์การค้า, การใช้น้ำรีไซเคิล, การจัดการขยะอย่างถูกวิธี และการใช้วัสดุในการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยประหยัดพลังงาน เป็นต้น
ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา บริหารจัดการศูนย์การค้า 35 แห่ง (อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ, ต่างจังหวัด 19 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ) ศูนย์การค้าภายใต้กิจการร่วมค้า (SF) 1 แห่ง คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 แห่ง ศูนย์อาหาร 30 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 2 แห่ง โครงการที่พักอาศัยอีก 19 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL PAHOL 34 และ BELLE GRAND RAMA 9
และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN พิษณุโลก (ทาวน์โฮม) นินญา กัลปพฤกษ์ (บ้านแฝด) โครงการนิยาม บรมราชชนนี (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ได้แก่ นีรติ เชียงราย และนีรติ บางนา โดยโครงการดังกล่าวได้รวมส่วนที่บริหารจัดการโดยบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND และ SF ที่เซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ตามแผนระยะยาวที่วางไว้ โดยโครงการมิกซ์ยูสที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา (กำหนดเปิด 30 พฤศจิกายน 64) เซ็นทรัลพลาซา จันทบุรี (กำหนดเปิดกลางปี 2565) และโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค บนทำเลทอง “ซุปเปอร์คอร์ ซีบีดี” ในกรุงเทพฯ โดยจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2566-2567 เป็นต้นไป
ขอบคุณที่มาจาก Matichon
อ่านข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ Blog ของเรา คลิก Home Connect