อสังหาฯเริ่มฟื้น บ้านเดี่ยวคึกคักยอดโต 30%

ตลาดอสังหาฯกทม.-ปริมณฑล ขยายตัวเล็กน้อยหลังยังมีแรงกดดันจากภาวะศก. โดยบ้านเดี่ยวเติบโตชัดเจน ขณะที่พฤกษายอดขาย 9 เดือน แตะ 2 หมื่นกว่าล้านบาทโต 24%

อนายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีมูลค่า 223,614 ล้านบาท เติบโต 7%  โดยตลาดบ้านเดี่ยวเติบโตสูงขึ้นอย่างชัดเจนถึง 30% ขณะที่เซกเมนต์อื่นยังติดลบ หรือทรงตัว ส่วนสินค้าคงค้าง (Inventory) ในตลาดฯ มีจำนวน 204,199 ยูนิต ลดลง 8%  เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับสถานการณ์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมายังค่อนข้างมีความกดดัน โดยมีปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจและการล็อกดาวน์ ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดโครงการออกไป แต่ภาพรวมผลประกอบการยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี  โดยสามารถทำยอดขาย 9 เดือนแรกได้ 20,067 ล้านบาท เติบโต 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำรายได้ 19,192 ล้านบาท ใกล้เคียงกับในช่วงเดียวกันที่ของที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 1,364 ล้านบาท โดยสามารถลดสินค้าคงค้างลงไปได้ถึง 57% จากปีก่อน และมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ 22,958 ล้านบาท”

“ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 22 โครงการ มูลค่า 13,040  ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 4  บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 9 โครงการ มูลค่า 8,540 ล้านบาท เพื่อขานรับนโยบายการผ่อนปรนมาตรการ LTV  ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถกู้ได้ 100% ไม่ต้องวางเงินดาวน์ พร้อมทั้ง ออกแคมเปญเพื่อช่วยลดภาระให้กับผู้ซื้อ”

นพ.กฤตวิทย์  เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด  กล่าวว่า โรงพยาบาลวิมุตเปิดให้บริการมาแล้วประมาณ 6 เดือน มีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรการแพทย์ เครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ  โดยล่าสุดได้เปิดตัวศูนย์เบาหวาน ไทรอยด์ ต่อมไร้ท่อ และควบคุมน้ำหนัก

ส่วนการลงทุนโครงการ ViMUT Health Center ที่โครงการ Pruksa Avenue ในย่านบางนา-วงแหวน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ใช้งบลงทุนรวม 150 ล้านบาท ขนาด 50 เตียง ซึ่งจะเป็นศูนย์สุขภาพ ที่ครอบคลุมบริการที่หลากหลาย อาทิ ศูนย์กายภาพ ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน (Home Health Care) คาดว่าจะเปิดให้บริการในปลายปี 2565

นอกจากนี้ โรงพยาบาลวิมุต ได้ร่วมมือกับภาครัฐฉีดวัคซีนช่วยชาติ เช่น Sinovac, AstraZeneca, Sinopharm และ Pfizer ตั้งแต่ พ.ค. – ต.ค. ให้คนไทย และต่างชาติ รวมเกือบ 1 แสนรายแล้ว และตั้งแต่เดือน พ.ย. 64 เป็นต้นไป ได้เริ่มฉีดวัคซีน โมเดอร์นาให้กับประชาชนที่จองวัคซีนผ่านทางโรงพยาบาล จนครบทั้งหมดประมาณ 150,000 โดส ประมาณไตรมาสแรกของปี 65  ตามที่ได้สั่งซื้อไว้ในชุดแรกและหลังจากนั้นก็จะทยอยฉีดโมเดอร์นาชุดที่ 2 อีกประมาณ 35,000 โดส ในปี 2565